Author: admin

Aug 31, 2024

อะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเสีย แก้ยังไงดี?

อะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเสีย แก้ยังไงดี?

เข้าใจเลยค่ะว่าอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเสียเป็นเรื่องน่าปวดหัว เพราะทำให้เราใช้งานโน้ตบุ๊กไม่ได้อย่างเต็มที่ ถ้าอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กของคุณเสีย อาจมีสาเหตุและวิธีแก้ไขดังนี้ค่ะ

สาเหตุที่อะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเสีย

• สายไฟขาดหรือชำรุด: สายไฟอาจขาดภายในหรือที่หัวต่อ ทำให้กระแสไฟไม่สามารถส่งผ่านไปยังโน้ตบุ๊กได้
• หัวต่อเสียหาย: หัวต่อที่เสียบเข้ากับโน้ตบุ๊กหรือปลั๊กไฟอาจหลวมหรือเสียหาย ทำให้การเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์
• วงจรภายในเสีย: ภายในอะแดปเตอร์อาจมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เสียหาย เช่น ทรานซิสเตอร์ ไดโอด ทำให้เกิดการทำงานผิดปกติ
• การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง: การดึงสายไฟแรงๆ หรือการพันสายไฟให้แน่นเกินไป อาจทำให้สายไฟหรือหัวต่อเสียหายได้

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

• ตรวจสอบสายไฟและหัวต่อ: ตรวจสอบว่าสายไฟและหัวต่อมีรอยขาดหรือชำรุดหรือไม่ หากพบรอยเสียหาย ควรเปลี่ยนอะแดปเตอร์ใหม่
• ลองเสียบอะแดปเตอร์กับปลั๊กไฟอื่น: เพื่อตรวจสอบว่าปัญหาเกิดจากปลั๊กไฟหรือไม่
• ลองเสียบอะแดปเตอร์กับอุปกรณ์อื่น: เพื่อตรวจสอบว่าอะแดปเตอร์เสียหายจริงหรือไม่
• ตรวจสอบช่องเสียบอะแดปเตอร์ในโน้ตบุ๊ก: ตรวจสอบว่าช่องเสียบอะแดปเตอร์ในโน้ตบุ๊กมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอุดตันหรือไม่

หากแก้ไขเองไม่ได้ ควรทำอย่างไร

• ปรึกษาช่างซ่อม: หากคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ควรนำอะแดปเตอร์ไปให้ช่างซ่อมตรวจสอบและซ่อมแซม
• ซื้ออะแดปเตอร์ใหม่: หากอะแดปเตอร์เสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้ ควรซื้ออะแดปเตอร์ใหม่ที่ตรงรุ่นกับโน้ตบุ๊กของคุณ

ข้อควรระวังเมื่อซื้ออะแดปเตอร์ใหม่

• เลือกอะแดปเตอร์ที่ตรงรุ่น: ควรเลือกอะแดปเตอร์ที่มีแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าตรงกับที่โน้ตบุ๊กของคุณต้องการ
• ซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ: เพื่อให้ได้อะแดปเตอร์ที่มีคุณภาพและรับประกัน

Aug 24, 2024

6 วิธีแก้ไขเบื้องต้น ถ้าเจอ 5 อาการนี้

6 วิธีแก้ไขเบื้องต้น ถ้าเจอ 5 อาการนี้

1. คอมพิวเตอร์ไม่ติด

2. จอภาพไม่มีภาพ

3. คอมพิวเตอร์ค้าง

4. อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อไม่ได้

5. คอมพิวเตอร์มีเสียงผิดปกติ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบว่าสายไฟ สายสัญญาณต่างๆ เชื่อมต่อแน่นหนาหรือไม่

2. รีสตาร์ท: ลองรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ดู อาจช่วยแก้ปัญหาชั่วคราวได้

3. ตรวจสอบอุปกรณ์ภายนอก: ถอดอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ออก เช่น ปริ้นเตอร์, USB เพื่อดูว่าเป็นสาเหตุของปัญหาหรือไม่

4. เช็คอุณหภูมิ: ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ร้อนเกินไปหรือไม่ อาจเกิดจากฝุ่นสะสม

5. สแกนไวรัส: ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสสแกนคอมพิวเตอร์

6. คืนค่าระบบ: หากปัญหาเกิดขึ้นหลังจากติดตั้งโปรแกรมใหม่ ลองคืนค่าระบบกลับไปยังจุดที่ทำงานได้ดี

#2comlimited #ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ #ซ่อมคอมฟอร์จูน

#คอมพิวเตอร์ไม่ติด #จอภาพไม่มีภาพ #คอมพิวเตอร์ค้าง #อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อไม่ได้ #คอมพิวเตอร์มีเสียงผิดปกติ

Aug 20, 2024

4 อาการคอมพิวเตอร์เสียที่พบบ่อย

4 อาการคอมพิวเตอร์เสียที่พบบ่อย และวิธีสังเกตเบื้องต้น

คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อาจเกิดปัญหาได้ตลอดเวลา อาการเสียที่พบเจอบ่อยๆ มีหลายอย่าง แต่เราสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้

1. คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติด

• สาเหตุ: อาจเกิดจากปัญหาที่แหล่งจ่ายไฟ, เมนบอร์ด, หรือชิ้นส่วนภายในอื่นๆ เสียหาย
• อาการ: กดปุ่ม Power แล้วไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ หรือมีไฟเข้าแต่พัดลมไม่หมุน

2. คอมพิวเตอร์ค้างหรือหน่วง

• สาเหตุ: เกิดจากปัญหาที่หน่วยความจำ (RAM), ฮาร์ดดิสก์, หรือโปรแกรมที่ทำงานอยู่ขัดข้อง
• อาการ: เครื่องทำงานช้าลง, ค้าง, หรือตอบสนองช้าเมื่อใช้งานโปรแกรม

3. จอฟ้า (Blue Screen of Death หรือ BSOD)

• สาเหตุ: เกิดจากปัญหาที่ฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ เช่น ไดรเวอร์เสียหาย, Windows มีปัญหา, หรือฮาร์ดแวร์ชำรุด
• อาการ: หน้าจอเป็นสีฟ้า และมีข้อความแสดงข้อผิดพลาด

4. คอมพิวเตอร์รีสตาร์ทเอง

• สาเหตุ: เกิดจากปัญหาที่ฮาร์ดแวร์ เช่น ซีพียูร้อนเกินไป, แรมเสียหาย, หรือพาวเวอร์ซัพพลายมีปัญหา
• อาการ: เครื่องทำงานไปสักพักแล้วรีสตาร์ทเองโดยอัตโนมัติ

วิธีสังเกตเพิ่มเติม

• เสียงผิดปกติ: เช่น เสียงร้องบี๊บ, เสียงพัดลมดังผิดปกติ
• ความร้อนสูง: ตัวเครื่องร้อนผิดปกติ
• ภาพบนจอผิดเพี้ยน: ภาพแตก, เป็นเส้น, หรือสีเพี้ยน

หากพบอาการเหล่านี้ ควรทำอย่างไร

• ตรวจสอบการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบสายไฟ, สายแลน, และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ว่าเสียบแน่นหรือไม่
• ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น: ปิดโปรแกรมที่ทำงานอยู่ทั้งหมด เพื่อลดภาระของเครื่อง
• ตรวจสอบฮาร์ดแวร์: ตรวจสอบว่าฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้นทำงานได้ปกติหรือไม่ เช่น แรม, ฮาร์ดดิสก์, การ์ดจอ
• สแกนไวรัส: สแกนไวรัสเพื่อตรวจสอบว่ามีไวรัสหรือมัลแวร์เข้ามาทำลายระบบหรือไม่
• ติดตั้งไดรเวอร์: ตรวจสอบและอัปเดตไดรเวอร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
• ติดต่อช่างซ่อม: หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ควรนำเครื่องไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและซ่อมแซม

ป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์เสีย

• ทำความสะอาดเครื่องเป็นประจำ: ช่วยลดปัญหาฝุ่นสะสม
• อัพเดต Windows และโปรแกรมต่างๆ: ช่วยแก้ไขช่องโหว่และปรับปรุงประสิทธิภาพ
• สำรองข้อมูล: เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลสำคัญ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานเกินพิกัด: ให้เครื่องได้พักบ้าง

Aug 15, 2024

การอัพเกรดโน้ตบุ๊ก ให้แรงขึ้น

การอัพเกรดโน้ตบุ๊ก: ปรับปรุงประสิทธิภาพให้แรงขึ้น

การอัพเกรดโน้ตบุ๊กเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องให้ดีขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด แต่ก่อนจะตัดสินใจอัพเกรด เราต้องมาดูกันก่อนว่าส่วนไหนของเครื่องที่สามารถอัพเกรดได้ และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง

อะไรบ้างที่อัพเกรดได้ในโน้ตบุ๊ก?

• แรม (RAM): หน่วยความจำแรมเป็นส่วนที่สำคัญในการเพิ่มความเร็วในการทำงานของโปรแกรมต่างๆ การเพิ่มแรมจะช่วยให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน หรือเล่นเกม

• SSD (Solid State Drive): การเปลี่ยนจาก HDD (Hard Disk Drive) เป็น SSD จะช่วยให้เครื่องบูตเร็วขึ้น โหลดโปรแกรมเร็วขึ้น และทำงานได้รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

• การ์ดจอ: สำหรับคนที่เน้นเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิก การอัพเกรดการ์ดจอจะช่วยให้ได้ภาพที่สวยงามและเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น แต่การอัพเกรดการ์ดจอนั้นทำได้ยากกว่าส่วนอื่นๆ และไม่สามารถทำได้กับทุกรุ่น

• แบตเตอรี่: แบตเตอรี่เป็นส่วนที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่จะช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น

ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดอาจสูงพอสมควร โดยเฉพาะการอัพเกรดการ์ดจอ

วิธีตรวจสอบว่าโน้ตบุ๊กของเราสามารถอัพเกรดอะไรได้บ้าง

• คู่มือผู้ใช้: คู่มือผู้ใช้จะระบุชัดเจนว่าโน้ตบุ๊กของคุณสามารถอัพเกรดส่วนใดได้บ้าง

• เว็บไซต์ของผู้ผลิต: ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต เพื่อดูว่ามีอะไหล่ทดแทนและคู่มือการอัพเกรดหรือไม่

• ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์: ปรึกษาช่างเทคนิคเพื่อให้ช่วยตรวจสอบและแนะนำ

#อัพเกรดโน้ตบุ๊ก #2comlimited #ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ #ซ่อมคอมฟอร์จูน

Aug 10, 2024

ลำโพงไม่มีเสียง

ลำโพงไม่มีเสียง

แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ลำโพงไม่มีเสียง

พบเจอปัญหาคอมพิวเตอร์ไม่มีเสียงใช่ไหมคะ? ไม่ต้องกังวลนะ ปัญหานี้มีวิธีแก้ไขได้หลายวิธีลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดูก่อนนะ

1. ตรวจสอบอุปกรณ์:

• สายลำโพง: ตรวจสอบว่าสายลำโพงเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และลำโพงอย่างแน่นหนาหรือไม่ มีความเสียหายหรือหลวมบ้างไหม

• ช่องเสียบ: ลองเสียบสายลำโพงไปที่ช่องอื่นดู อาจมีปัญหาที่ช่องเสียบ

• ลำโพง: ตรวจสอบว่าลำโพงทำงานปกติหรือไม่ ลองเสียบกับอุปกรณ์อื่นดู

• หูฟัง: หากคุณใช้หูฟัง ลองถอดออกและตรวจสอบว่าลำโพงทำงานหรือไม่

2. ตรวจสอบการตั้งค่าเสียง:

• ปุ่มปรับระดับเสียง: ตรวจสอบว่าปุ่มปรับระดับเสียงของคอมพิวเตอร์และลำโพงไม่ได้ถูกปิดเสียง

• การตั้งค่า Windows:

o ไปที่ Settings > System > Sound

o ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เอาต์พุต (ลำโพง) ถูกเลือกเป็นค่าเริ่มต้น

o ตรวจสอบระดับเสียงของลำโพงว่าถูกปรับให้ดังพอหรือไม่

• Volume Mixer:

o คลิกขวาที่ไอคอนลำโพงที่แถบงาน แล้วเลือก Open Volume Mixer

o ตรวจสอบว่าโปรแกรมที่คุณกำลังใช้งานไม่ได้ถูกปิดเสียง

3. ตรวจสอบไดรเวอร์เสียง:

• อัปเดตไดรเวอร์:

o ไปที่ Device Manager (ค้นหาใน Windows Search)

o ขยายหัวข้อ Sound, video and game controllers

o คลิกขวาที่อุปกรณ์เสียงของคุณ แล้วเลือก Update driver

• ติดตั้งไดรเวอร์ใหม่: หากการอัปเดตไม่ช่วย ลองดาวน์โหลดและติดตั้งไดรเวอร์เสียงเวอร์ชันล่าสุดจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หรือชิปเซ็ต

4. ตรวจสอบการตั้งค่า BIOS:

• เข้าสู่ BIOS: แต่ละรุ่นจะมีวิธีเข้าที่แตกต่างกัน อาจเป็นการกดปุ่ม Delete, F2 หรือ F10 ขณะเปิดเครื่อง

• ค้นหาการตั้งค่าเสียง: หากพบการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับเสียง ลองปรับดู

5. ปัญหาอื่นๆ:

• ซอฟต์แวร์: บางครั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหรือไฟร์วอลล์อาจบล็อกการทำงานของเสียง ลองปิดใช้งานชั่วคราวแล้วลองดู

• ปัญหาฮาร์ดแวร์: หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วไม่หาย อาจมีปัญหาที่ฮาร์ดแวร์ เช่น การ์ดเสียงเสียหาย ควรปรึกษาช่างเทคนิค

#ลำโพงไม่มีเสียง #ปัญหาคอมพิวเตอร์ลำโพงไม่มีเสียง #2comlimited #ซ่อมคอมฟอร์จูน #ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ #แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์